วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551

ประโยชน์ของบล็อก

ประโยชน์ของบล็อก
บล็อกเป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะดูไม่เป็นทางการ แต่ก็เป็นพื้นที่ ที่เราสามารถ่ายทอดความสามารถ ความสนใจออกมาได้อย่างอิสระ ซึ่งเราสามารถใช้ประโยชน์จากเจ้าบล็อกแห่งนี้ได้มากมาย เช่น
เขียนบล็อกเล่าสิ่งที่สนใจ เช่น สนใจเรื่องกีฬา ก็มาบอกเรากันหน่อยว่าเล่นกีฬาแล้วเป็นอย่างไร หรือ สนใจเรื่องการออกแบบ เราได้อ่านหนังสือ หาข้อมูลอะไร เรียนรู้และลองทำอะไรมาบ้าง แถมยังเอาผลอ่านตัวเองมาอวดเพื่อนๆ ใน Learners ก็ได้คะ ตัวอย่างเช่น
น้อง
วงศกฤต เกรียงวรกุล เขียนบันทึกเกี่ยวกับการออกแบบไว้ที่บล็อก Designs
เขียนบล็อกนำเสนอการเรียนรู้ของตัวเอง เช่น เกี่ยวกับวิชาที่เราลงทะเบียนเรียน เราก็สามารถเล่าถึงการเรียนของเรา โปรเจคหรืองานที่อาจารย์ให้ทำ เจออะไรที่น่าสนใจ และได้เรียนรู้อะไรบ้าง เป็นต้น ตัวอย่างเช่น
น้อง
นาย จักรกฤษณ์ เหมวรรโณ เขียนเล่าถึงประสบการณ์การทำโปรเจคที่บล็อก project-H
เขียนบล็อกเล่าประสบการณ์ต่างๆ เช่น ได้ไปฝึกงาน ก็เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้ทำงานในบริษัทต่างๆ หรือเอาประสบการณ์การทำงานกลุ่มกับเพื่อนๆ มาบอกเล่ากันก็ได้คะ ตัวอย่างเช่น
น้อง
* * S.C.Kimberly * * เขียนเล่าประสบการณ์การฝึกงานไว้ที่บล็อก What an Experience!!
นำเสนอผลงานของตัวเอง เช่น ในวิชาเรียนต่างๆ อาจารย์ก็จะมอบหมายงานให้ทำ ทั้งรายกลุ่ม รายคน เราก็นำผลงานของเรา มานำเสนอใน Learner ได้เช่นกัน หากมีไฟล์ข้อมูล หรือไฟล์ภาพ ก็นำมาใส่ในไฟล์อัลบั้ม ได้เลยคะ
ที่เขียนไปข้างบนนั้น เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ นะค่ะ ใครมีตัวอย่างนอกจากนี้ มา comment ไว้ได้เลย เพื่อนๆ จะได้เข้าไปดูเป็นตัวอย่างกันง่ายๆ นะคะ

ประวัติของบล็อค

ประวัติของบล็อก
ประวัติของบล็อกบล็อก (Blog) คือ คำว่า “Weblog” ถูกใช้งานเป็นครั้งแรกโดย Jorn Barger ในเดือนธันวาคม ปี 1997 ต่อมามีฝรั่งที่ชอบเรียกสั้นๆ ชื่อนาย Peter Merholz จับมาเรียกย่อเหลือแต่ “Blog” แทนในเดือนเมษายน ปีค.ศ.1999 และจนมาถึงวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ.2003 ทางOxford English Dictionary จึงได้บรรจุคำว่า blog ในพจนานุกรม แสดงว่าได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ บล็อก (Blog) ขึ้นแท่นศัพท์ยอดฮิต อันดับหนึ่ง ซึ่งถูกเสาะแสวงหา ความหมาย ทางพจนานุกรมออนไลน์ มากที่สุด ประจำปี 2004สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เว็บไซต์ ดิกชั่นนารีหรือ พจนานุกรมออนไลน์ “เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์” ได้ประกาศรายชื่อ คำศัพท์ซึ่งถูกคลิก เข้าไปค้นหา ความหมายผ่าน ระบบออนไลน์มากที่สุด 10 อันดับแรกประจำปีนี้ ซึ่งอันดับหนึ่งตกเป็นของคำว่า “บล็อก” (blog) ซึ่งเป็นคำย่อของ “เว็บ บล็อก” (web log)โดยนายอาเธอร์ บิคเนล โฆษกสำนักพิมพ์พจนานุกรมฉบับ เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ กล่าวว่า สำนักพิมพ์ได้เตรียมที่จะนำคำว่า “บล็อก” บรรจุลงในพจนานุกรมฉบับล่าสุดทั้งที่เป็นเล่มและ ฉบับออนไลน์แล้วแต่จากความต้องการของผู้ใช้ที่หลั่งไหลเข้ามา ทำให้เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ตัดสินใจบรรจุคำว่า “บล็อก” ลงในเว็บไซต์ในสังกัดบางแห่งไปก่อน โดยให้คำจำกัดความไว้ว่า “เว็บไซต์ที่บรรจุ เรื่องราวเกี่ยวกับบันทึกส่วนตัวประจำวัน ซึ่งสะท้อนถึงมุมมอง ความคิดเห็นของบุคคล โดยอาจรวมลิงค์เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ตามความประสงค์ของเจ้าของเว็บบล็อกเองด้วย” โดยทั่วไป คำศัพท์ที่ถูกบรรจุลงในพจนานุกรมนั้นจะต้องผ่านการใช้งาน อย่างแพร่หลาย มาไม่น้อยกว่า 20 ปี ซึ่งหมายความว่าคำคำนั้นจะต้องถูกนำมาใช้โดยทั่วไปในระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคำศัพท์ ทางเทคโนโลยีรวมไปถึงโรคภัยไข้เจ็บใหม่ๆ อย่างเช่น โรคเอดส์ โรคไข้หวัดซาร์ส ถูกบรรจุลงในพจนานุกรมภายในระยะเวลาอันสั้นคำว่า “บล็อก” เริ่มใช้เป็นครั้งแรกๆผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสารเมื่อปี 2542 แต่ผู้รวบรวมพจนานุกรมตั้งข้อสังเกตว่าการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการประชุมใหญ่ของ พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเพื่อรับรองชื่อ ผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนชาวสหรัฐฯ ผู้ติดตามข่าวสารส่วนใหญ่สนใจ และต้องการทราบความหมายที่แท้จริงของคำดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อคำศัพท์เหล่านั้นปรากฏเป็นข่าวพาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์ทั่วไปนอกเหนือจากคำว่า “บล็อก” แล้ว คำศัพท์ที่ติดอันดับถูกเข้าไปค้นหาความหมายสูงสุด 10 อันดับแรกประจำปีนี้ได้แก่ “อินคัมเบนท์” (incumbent) ซึ่งหมายถึงผู้อยู่ในตำแหน่ง, “อิเล็กทอรัล” (electoral) หรือคณะผู้เลือกตั้งขณะที่บางคำเป็นคำศัพท์ที่เกี่ยวเนื่องกับสงครามในอิรัก เช่น “สตอร์มส” (stroms) ซึ่งมีความหมายว่ าการโจมตีอย่างรุนแรง, “อิน-เซอร์เจ้นท์” (insurgent) หรือกองกำลังฝ่ายต่อต้านการปกครอง อิรัก, “เฮอร์ริเคน” (hurri- cane) ซึ่งหมาย ถึงผลกระทบอย่างรุนแรง, “เพโลตัน” (peloton) ที่แปลว่ากองทหารขนาดเล็ก และซิคาด้า (cicada) ซึ่งความหมายตามรูปศัพท์ แปลว่าจักจั่น

ประโยชน์ของบล็อก

2.เก็บข้อมูลไว้ศึกษาทีหลังได้
3.ให้ผู้อื่นศึกษาต่อได้
4.สามารถมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นความรู้ใหม่ๆได้ด้วย

ข้อเสียของบล็อก

ข้อเสียของบล็อก
บล็อก2 คอมเมนต์ วันก่อนคุยกับ ดีดี้ เรื่องบล็อก สองค่ายใหญ่ คือ MSN Spaces ของ Microsoft กับ Blogger ของ Google ว่าอันไหนดีกว่ากัน อยากจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นความเห็นของเราสองคนล้วนๆ นะ ที่คุยกันก็คือเรื่องเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของบล็อกทั้งสองยี่ห้อ เรากับดีดี้ซึ่งใช้บริการ Blogger ก็ต่างก็มีความเห็นตรงกันว่า Blogger ดีกว่า ตรงที่มันสามารถจัดรูปแบบ (customize) ได้มากกว่า และก็พอจัดออกมาก็จะดูสวยและมีความเฉพาะตัวกว่า ถึงแม้ว่า MSN Spaces จะมีรูปแบบที่สวยกว่า (แต่เราเห็นว่าไม่สวยเลย ดูเหมือนกันเกินไป เปรียบได้กับสินค้าโรงงาน) แต่ก็จัดอะไรมากไม่ได้ แถมยังดูรกด้วย อีกอย่างก็คือ สำหรับคนใช้แมคอย่างเรากับดีดี้ การเข้าไปดู MSN Spaces เป็นอะไรที่ยากลำบากมาก เพราะว่าภาษาไทยมักจะขึ้นมาตัวเล็กเกิน ไม่ก็ทำหน้าจัดได้ไม่ตรง อ่านยากมาก สรุปแล้ว เราสองคนก็ลงความเห็นว่า Blogger ดีกว่าเห็นๆส่วนข้อเสียของ Blogger เท่าที่ดีดี้เล่ามาก็มี เรื่องของความเป็นส่วนตัว (privacy) เพราะว่าใครก็เข้ามาดูบล็อกได้ทั้งนั้น นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่เพื่อนเรา อุ้ม ไม่ใช้ Blogger จากที่เราทำบล็อกมา โอกาสที่คนแปลกหน้าจะเข้ามาอ่านบล็อกเราได้มีอยู่วิธีเดียวก็คือ ลิงค์จากบล็อกคนอื่น (คนที่เข้ามาเราก็ไม่ถือว่าแปลกหน้าแล้ว และหลายคนที่เรารู้จักผ่านทางนี้และเรารู้สึกว่าดีมากๆ ด้วย) บางคนก็สุ่มเข้ามาเจอบล็อกเราโดยบังเอิญ แต่ก็ไม่สามารถอ่านได้อยู่ดี เพราะบล็อกเราเป็นภาษาไทยล้วนๆ (นอกจากแทบจะไม่มีประโยคภาษาอังกฤษแล้ว เรายังปริวรรตคำบางคำให้เป็นภาษาไทย เพื่อให้บล็อกมีความเป็นไทยมายิ่งขึ้น) ข้อเสียหลักอีกข้อหนึ่งก็คือทำบล็อกใน Blogger นั้นค่อนข้างยาก ยิ่งถ้าอยากแก้ไขหน้าตาบล็อกให้ดูแปลกก็ยิ่งยากใหญ่ แต่อันนี้เราก็ขอแย้ง เพราะมีพี่ที่แล็บคนนึง ชื่อ พี่กิจ ที่ไปทำงานวิจัยอยู่ที่ออสเตรเลียก็เพ่ิงหัดทำบล็อก แล้วก็ใช้ Blogger ออกมาก็สวยงามดี ดีดี้ก็บอกเหมือนกัน (กรณีเดียวกันเด๊ะ พี่ที่แล็บไปเมืองนอก แล้วก็ทำบล็อก อย่างกะเดจาวูแหนะ) สรุปอย่างเข้าข้างตัวเองก็คือ ยังไงก็ยังรู้สึกว่า Blogger ดีกว่า MSN Spaces อยู่ดี ทั้งๆ ที่เพื่อนส่วนใหญ่ใช้อันหลังกันทั้งนั้น อันนี้เห็นได้ชัดจากพฤติกรรมการเข้าบล็อกของเราก็คือ เรามักจะเข้าบล็อกของ Blogger บ่อยกว่า (ที่บ่อยๆ ก็มีของดีดี้ พรสรร รองลงมาก็มีของ พี่กิจ ยุธ) ส่วน MSN Spaces เราบางทีก็ไม่ค่อยอยากเข้า เพราะต้อง sign in ก่อน


วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2551

ข้อดีของบล็อก

ข้อดีของบล็อก
ผมเริ่มทดลองใช้เว็บบล็อกมาเกือบสองปีแล้ว เนื่องจากเป็นบริการฟรี และมีระบบใช้งานง่าย แต่ก็ยังไม่รู้จะหาประโยชน์มันอย่างไร นอกจากใช้เป็นไดอารี่ออนไลน์ ช่วงนั้น ผมก็บันทึกเรื่องเหล่านี้ใน www.bananaclick.com อยู่แล้ว จึงยังไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องมาทำ 2 เว็บไซต์ แล้วมีเนื้อหาเหมือนกันจนกระทั่งวันหนึ่ง ผมเกิดปัญหาเข้าไปแก้ไขข้อมูลในเว็บ www.bananaclick.com ไม่ได้ (ขณะนี้ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว แต่ผมอยากพักข้อมูลในนั้นไว้เป็นส่วนเสริมจากการอ่านหนังสือ คิดได้ขายเป็นบนโลกออนไลน์) เลยเกิดความคิดว่าน่าจะมีเว็บเก็บข้อมูลสำรอง ก็เลยหันมาให้ความสำคัญกับเว็บบล็อกอีกครั้ง...หลังจากทดลองเข้าไปทำเว็บใน blogger.com แล้วถึงสี่เว็บก็เกิดความมั่นใจว่า ระบบมีความเสถียรพอสมควร (ต้องสมัครอีเมลของ gmail.com ก่อน) ที่สำคัญคือเป็นภาษาไทยอธิบายและจัดทำได้ไม่ยาก มีความเป็นอิสระในการออกแบบตามสมควร วันที่ 1 มกราคม 2551 ผมจึงคิดจะทำเว็บบล็อกอย่างจริงจัง หลังจากสร้างเว็บบล็อกเสร็จจึงไปจดโดเมนเนม thaimarketonline.net ขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้1. เป็นแหล่งความรู้ให้กับผู้ที่ผมเคยไปสอนวิชาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้มีโอกาสศึกษาเพิ่มเติม ไม่เฉพาะจบกันแค่ชั่วโมงสอนที่กำหนด2. เป็นการแลกเปลี่ยนข่าวสาร, ข้อมูลความรู้ ทั้งวิธีการซื้อสินค้า และระมัดระวังเรื่องการโกงออนไลน์3. การสร้างเว็บบล็อกนั้น ไม่มีรูปแบบตายตัว ในการนำเสนอเนื้อหาสาระ จะบอกเรื่องงานอดิเรก, แนะนำตัวเอง, เก็บความประทับใจจากการท่องเที่ยว หรือแม้แต่จะประกาศขายสินค้าก็ทำได้ ดังนั้น ผู้เขียนจึงมีอิสระในการนำเสนอรูปแบบต่างๆ มากขึ้น จะเห็นว่าเว็บ thaimarketonline.net บางพื้นที่จึงมีไว้เพื่อตรวจการบ้าน สำหรับผู้ประกอบการที่ส่งงานมาให้ตรวจ ที่สำคัญ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ยังมีผู้อื่นพบเห็น จะทำให้เกิดการเรียนรู้ในวงกว้างขึ้น เพื่อจะไม่ทำผิดซ้ำอีก4. เว็บ thaimarketonline.net เป็นเสมือนสนามทดลองงานเขียนประเภทใหม่ๆ ของผม ซึ่งผู้อ่านสามารถเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ สิ่งนี้ก็จะทำให้ผมรู้ความต้องการ และผลิต หนังสือเล่ม 2 ให้ตรงกับความต้องการของผู้อ่านยิ่งขึ้น แนวความคิดเช่นนี้ ผู้ผลิตสินค้า ก็สามารถนำมาประยุกต์แนะนำต้นแบบสินค้าของตนเองให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักก่อนได้ เพราะถ้าทุ่มงบประมาณผลิตออกมามากมายแล้ว สี, ลักษณะ หรือราคาไม่เข้าตาลูกค้า ก็อาจประสบปัญหาขาดทุน5. การสร้างเว็บบล็อก ที่เกิดเป็นชุมชนขนาดใหญ่ หมายถึง "ตลาด" ที่มีผู้คนเข้ามามากมาย ซึ่งคนเหล่านี้สามารถติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูล หรือแม้แต่ทำธุรกิจร่วมกันได้ ในเว็บไซต์นี้จึงมีขายตั้งแต่พวงกุญแจอันละ 79 บาท ไปจนถึงที่ดินแปลงละกว่า 4 ล้าน ซึ่งถือเป็นช่องทางการตลาดที่สะดวก ทั้งผู้ขายก็ไม่ต้องไปนั่งสัปปะหงกเฝ้าร้านเสียเวลารอลูกค้าที่ไม่รู้จะมาซื้อเมื่อไหร่ ในขณะที่ตื่นขึ้นมาก็ต้องขึ้นเครียดกับค่าเช่าร้านเดือนละหมื่นที่ต้องจ่ายทุกเดือน ในขณะที่ผู้ซื้อเองก็ซื้อสินค้าที่ดี มีราคายุติธรรม ไม่ต้องแบกค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าเช่าร้าน, พนักงาน หรือสำรองหนี้สูญของผู้ขาย ผมเองเคยใช้บริการติดคีย์การ์ดประตู จากร้านบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งเมื่อเทียบราคากับการไปติดต่อร้านที่เปิดบริการอยู่ในห้างแล้ว ต่างกันถึง 5,000 บาท!!!

ความหมายของบล็อก

ความหมายของบล็อก
ความหมายของคำว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง หรือ เรียกง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ที่มีรูปแบบเนื้อหาเป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มีส่วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วยบล็อก (
อังกฤษ: blog) หรือ เว็บล็อก (weblog) เป็นหน้าเว็บประเภทหนึ่ง ซึ่งคำว่า blog ย่อมาจากคำว่า weblog หรือ web log โดยคำว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ) และ log (ปูม, บันทึก) รวมกัน หมายถึง บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ นั่นเอง